หมายเหตุ: LM Article


LM watch พยายามคงการเน้นคำในเนื้อหาให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เนื่องจากเงื่อนไขทางเทคนิคบางประการ ทำให้การแสดงผลบนเวบไซต์นี้ยังไม่สามารถใช้การเน้นแบบ "ขีดเส้นใต้" ได้ จึงจำเป็นต้องใช้การเน้นด้วย "ตัวหนา" แทนในบางกรณี ซึ่งต้องขออภัยต่อเจ้าของบทความ/รายงาน ตลอดจนผู้อ่านเป็นอย่างสูง

LM watch



วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

'อย่าเดินไปสู่ 6 ตุลาฯ'

ที่มา: มติชน (วันที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 หน้า 6)


'อย่าเดินไปสู่ 6 ตุลาฯ'

เกษียร เตชะพีระ

คุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง เป็นนักศึกษาของผมคนหนึ่ง เขาเคยเข้ามาเรียนในวิชาที่ผมสอนที่ธรรมศาสตร์

หลังเรียนจบแล้ว เขาห่างหายจากมหาวิทยาลัยไป จนปรากฏข่าวอื้อฉาวว่าเขาถูกตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

เท่า ที่ทราบจากข่าว ผมไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณโชติศักดิ์ทำ ถ้าเขายังเรียนกับผมอยู่ ผมคงโต้แย้งถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ทัดทานตักเตือนเขา

แต่คุณโชติ ศักดิ์ก็ได้ทำสิ่งนั้นไปแล้ว และในฐานะบุคคลผู้บรรลุนิติภาวะ รู้ผิดชอบชั่วดี เขาก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เขากระทำ โดยเป็นไปตามครรลองของกฎหมาย ผ่านกระบวนการยุติธรรม

ในความหมายนี้ ฐานะของคุณโชติศักดิ์จึงไม่ใช่ทั้ง "วีรชน" และก็ไม่ใช่ "ปีศาจ" อย่างที่มีใครบางฝ่ายพยายามปั้นให้เป็น เขาเป็นเพียงผู้ต้องหาคดีอาญา ซึ่งศาลตุลาการจะเป็นผู้พิพากษาตัดสินในที่สุดว่าเขามีความผิดจริงหรือไม่? และหากผิดจริง เขาควรต้องรับโทษสถานใด?

การเรียกร้องให้ใช้ศาลเตี้ย เล่นงานเขาด้วยความคะนองปากผ่านสื่อมวลชนบางสำนัก ย่อมไม่ต่างอะไรกับวาทกรรม "ฆ่าตัดตอน" แห่งสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดสมัยรัฐบาลทักษิณ หรือการประณามด่าว่าฝ่ายตรงข้ามและผู้เห็นต่างทางการเมืองอย่างดูหมิ่น ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนผู้นั้นตามเว็บบอร์ดฝ่ายต่างๆ ในระยะหลังนี้ ซึ่งล้วนปลุกระดมสร้างเสริมบรรยากาศความเกลียดชังอย่างขาดสติอันจะนำไปสู่ การกร่อนเซาะบ่อนทำลายความอดทนอดกลั้นต่อกันและหลักนิติธรรมหรือการปกครอง ด้วยกฎหมาย (the rule of law) ในที่สุด

เราไม่ควรทำซ้ำในสิ่งที่เรา ประณามว่าคนอื่นทำ เราไม่ควรใช้วิธีการอันเลวร้ายที่คู่ต่อสู้ของเราใช้หากเราคิดว่าเราแตก ต่างจากคู่ต่อสู้ของเรา

หนทางที่คนไทยเราจะหาทางออกจากความขัดแย้ง ทางการเมืองเรื่องต่างๆ ที่กำลังเข้มข้นงวดตัวขึ้นในปัจจุบัน โดยไม่ต้องลุกขึ้นมาฆ่ากันเองจนนองเลือดเหมือนที่ผ่านมาและที่อาจจะเกิด ขึ้นได้อีก ก็คือ : -

อย่าทำให้คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกลายเป็นประเด็นการเมือง

อย่าใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

หากต้องยึดมั่นให้คดีเหล่านี้ดำเนินไปตามครรลองของกฎหมายโดยวิถีทางแห่งกระบวนการยุติธรรมอย่างที่มันควรจะเป็นจนถึงที่สุด

นั่นคือผิดเป็นผิด และต้องรับโทษตามกฎหมาย, ไม่ผิดเป็นไม่ผิด และได้รับอิสระพ้นมลทินไป

นี่ต่างหากคือวิธีป้องกันรักษาประชาชาติบ้านเมืองและสถาบันกษัตริย์ให้มั่นคงปลอดภัยจากไฟแห่งความขัดแย้งแตกแยกทางการเมืองที่ดีที่สุด

เมื่อ 32 ปีก่อน เหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ที่ธรรมศาสตร์เกิดขึ้นและดำเนินไปสู่การนองเลือดจากองค์ประกอบเหล่านี้คือ : -

- มีการกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
- มีการกล่าวหารัฐมนตรีบางรายว่าเป็นคอมมิวนิสต์และเดินขบวนกันไปล้อมทำเนียบรัฐบาล
- ไทยฆ่าไทย
- รัฐประหาร

ด้วยบทเรียนในอดีตที่เรามี สังคมไทยต้องช่วยยับยั้งซึ่งกันและกันให้หยุด อย่าเดินต่อไปตามเส้นทางสายเก่าสู่สถานการณ์อย่าง 6 ตุลาฯ

บนเส้นทางสายที่กำลังปูลาดกันอยู่นี้ คนอย่างคุณโชติศักดิ์ เว็บข่าวประชาไท และนิตยสารฟ้าเดียวกัน เป็นแค่เหยื่อริมทาง จุดหมายปลายทางอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีจักรภพ เพ็ญแข และสมัคร สุนทรเวช เป็นเป้าหมาย และชีวิตเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกันเป็นเครื่องสังเวย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น